วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2560
วัชรมณี: ไพลิน
วัชรมณี: ไพลิน: ไพลิน " ไพลิน ( Blue Sapphire)" เป็นพลอยประจำเดือนเกิดของผู้ที่เกิดเดือนกันยายน และไพลินยังถือเป็นสัญญลักษณ์ที่คู่รักนิยมม...
วันพุธที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2560
ไพลิน
ไพลิน
"ไพลิน (Blue Sapphire)" เป็นพลอยประจำเดือนเกิดของผู้ที่เกิดเดือนกันยายน
และไพลินยังถือเป็นสัญญลักษณ์ที่คู่รักนิยมมอบเป็นของขวัญให้แก่กันในโอกาสครบรอบการแต่งงานในปีที่
5, 15, 23 และ ปีที่ 45 ไพลินได้รับความนิยมในหมู่คนทั่วไปทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ไพลินจัดเป็นแร่ในประเภท (Species) คอรันดัม (Corundum)เช่นเดียวกับทับทิม (Ruby) ซึ่งพลอยคอรันดัมนี้เป็นพลอยที่มีความแข็งรองลงมาจากเพชร
จึงทำให้ไพลิน เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำไปทำเครื่องประดับ
ปัจจุบันหากพูดถึงแซฟไฟร์ "Sapphire" คำเดียวจะหมายถึง Blue
Sapphire หรือ ไพลิน เพราะ Sapphire มาจากภาษาเปอร์เชีย
"Saffir" หรือ จาก ภาษากรีก "Sappheiros"แปลว่า ผู้เป็นที่รักของ Saturn (เทพเจ้าแห่งกรีก)
และหมายถึงสีน้ำเงิน "Blue" ซึ่งสมัยโบราณ
จะเรียกพลอยคอรันดัมที่มีสีน้ำเงินว่าแซฟไฟร์แต่ในความเป็นจริงพลอยคอรันดัมประเภท Sapphire
มีได้หลากสี เช่น สีเหลือง, ชมพู, ม่วง, เขียว เป็นต้น
ดังนั้นหากเราต้องการจะเรียกพลอยคอรันดัมชนิดอื่นที่ไม่ใช่ไพลิน (Blue
Sapphire) เราจะต้องระบุ สีด้วย เช่น Yellow Sapphire(บุษราคัม), Green Sapphire (เขียวส่อง), Pink
Sapphire (พลอยแซปไฟร์สีชมพู) เป็นต้น
ในปัจจุบันไพลินส่วนใหญ่มักผ่านการปรับปรุงคุณภาพด้วยความร้อนหรือที่เราเรียกกันว่าการเผา
แต่ก็ได้รับการยอมรับกันโดยทั่วไปในตลาดพลอย
เพราะการเผาจะทำให้สีดีของไพลินดีขึ้นและอยู่คงทนถาวร
สมบัติของไพลิน (Blue Sapphire)
ชาวเปอร์เซียโบราณเชื่อกันว่าแซฟไฟร์ คือ "หินที่มาจากฟ้า" เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าโลก ตั้งอยู่บน แซฟไฟร์ ขนาดมหึมา
จึงทำให้สะท้อนแสงแดด ออกไปสู่ท้องฟ้ามีสีน้ำเงิน ตามตำนานกล่าวว่า
แซฟไฟร์เป็นพลอยของกษัตริย์ที่ใช้สวมใส่เพื่อป้องกันภยันตราย
ทำให้เชื่อกันว่าผู้ที่สวมใสไพลินจะมีชีวิตที่สดใส มีพลังในการดำรงชีวิต และไพลินนี้สามารถปกป้องอันตรายแก่ผู้ที่สวมใส่ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังถือเอาไพลินนี้เป็นสัญลักษณ์ของความจริงใจ และมั่นคงอีกด้วย
ประวัติ
เมื่อก่อน คนไทยเรียก ไพลิน ว่า นิลกาฬ ตามคำกลอนของ นพเก้า ที่ว่า “ สีหมอกเมฆนิลกาฬ ” แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็น “ไพลิน” เนื่องจาก
เมื่อก่อน นิลกาฬสีน้ำเงินเข้มสดที่มาจากจังหวัดไพลิน ที่ประเทศเขมร เป็นที่นิยมมาก เมื่อผู้ขายนำมาขายจึงต้องระบุว่ามาจากจังหวัดไพลิน จนคำว่า “
ไพลิน ” กลายเป็นคำเรียกแทน “ นิลกาฬ ” มาจนถึงทุกวันนี้
พลังและความเชื่อ
ไพลินเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง และความซื่อสัตย์
ผู้หญิงจึงมักเลือกใช้ไพลินมาทำเป็นแหวนหมั้น และไพลินยังเป็นอัญมณีแห่งคุณธรรม
ช่วยให้ผู้ที่สวมใส่ มีจิตใจตั้งมั่นอยู่ในความดี ช่วยควบคุมอารมณ์
เพิ่มความเชื่อมั่นและความศรัทธา ช่วยให้ประสบความสำเร็จ ช่วยปกป้องให้พ้นจากภยันตรายต่างๆ
ทางด้านการบำบัดรักษา ไพลินช่วยบรรเทาอาการทางสมอง
โรคที่เกี่ยวกับประสาทและไขสันหลัง ผิวหนังอักเสบได้
ช่วยทำให้ผู้สวมใส่มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์แข็งแรง
ตำนาน
แซฟไฟร์เป็นอัญมณีที่มีตำนานเล่าขานกันมานาน เช่น
ชาวเปอร์เซียโบราณเชื่อกันว่า แซฟไฟร์ คือหินที่มาจากฟากฟ้า
และโลกของเราก็ตั้งอยู่บนแซฟไฟร์ขนาดมหึมา
เมื่อแสงแดดส่องลงมากระทบก็จะเกิดแสงสะท้อนสีน้ำเงินกลับขึ้นไปยังท้องฟ้า
อีกตำนานเล่าว่า บัญญัติ 10 ประการ
ซึ่งเป็นรายการคำสอนและข้อปฏิบัติตามคัมภีร์ไบเบิ้ลที่กล่าวโดยโมเสสบนยอด เขา Sinai
ก็ได้ถูกสลักไว้บนแผ่นแซฟไฟร์
นอกจากนี้ยังมีตำนานเล่าถึงรังสีศักดิ์สิทธ์ที่แผ่ออกมาจากแซฟไฟร์
แล้วสามารถฆ่าสัตว์มีพิษทั้งหลายได้
แหล่งที่พบไพลิน
แหล่งไพลินแหล่งใหญ่ในปัจจุบัน คือ ประเทศศรีลังกา
และบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย พม่า เขมร ออสเตรเลีย ไพลิน
ที่คุณภาพดีที่สุด พบที่แคว้นแคชเมียร์ ประเทศอินเดีย มีสีน้ำเงินเข้ม แลดูนุ่มนวล
ไม่อมเขียวหรืออมดำ เรียกกันว่า สีน้ำเงินกำมะหยี่ ไพลินที่ขึ้นชื่ออีกแหล่งหนึ่ง
คือ ไพลินจากซีลอน หรือประเทศศรีลังกาซึ่งมีลักษณะเดียวกันกับไพลินจากแคว้นแคชเมียร์
สำหรับในประเทศไทย พบไพลินมากที่จังหวัดจันทบุรีและกาญจนบุรี
ไพลินของไทยส่วนใหญ่มีสีน้ำเงินเข้ม และไพลินออสเตรเลีย มักจะมีสีน้ำเงินอมดำ
อมเขียว
การดูแลรักษา
เนื่องจากแซฟไฟร์ เป็นพลอยที่มีความแข็งมาก
จึงไม่ต้องกังวลเรื่องรอยขีดข่วนมากนัก
สามารถทำความสะอาดได้ง่ายๆโดยล้างด้วยน้ำสบู่และเช็ดด้วยผ้าแห้งนุ่ม
แหล่งข้อมูล:
Ruby&Sapphire by Richard W. Hughes
Pratical Gem Handbook, GemA;
Gem Reference Guide, GIA;
แร่, กรมทรัพยากรธรณี
ศัพท์บัญญัติอัญมณี, มาตรฐานผลิตพันธ์อุตสาหกรรม
Pratical Gem Handbook, GemA;
Gem Reference Guide, GIA;
แร่, กรมทรัพยากรธรณี
ศัพท์บัญญัติอัญมณี, มาตรฐานผลิตพันธ์อุตสาหกรรม
วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560
หยก
หยก
หยก (Jade) คือชื่อที่ใช้เรียกหินซึ่งเป็นอัญมณีอันล้ำค่ามากชนิดหนึ่ง
โดยเฉพาะชาวจีนถือว่าหยกเป็นเจ้าแห่งหินมีค่าทั้งมวล
ในอดีตเข้าใจกันว่าหยกมีเพียงชนิดเดียว
ต่อมาเมื่อมนุษย์มีความรู้ทางด้านเคมีมากขึ้น
จึงสามารถแยกหยกได้เป็น 2 ชนิด คือ
1. เจไดต์ (Jadeite) มีองค์ประกอบทางเคมีเป็นโซเดียมอะลูมิเนียมซิลิเกต
(NaAl (SiO3)2, Sodium aluminium silicate) มักมีสีเขียวเข้มสดกว่าเนฟไฟรต์ จัดเป็นหยกชนิดคุณภาพดี
อยู่ในระบบผลึกแบบหนึ่งแกนเอียง
โดยธรรมชาติมักพบเป็นก้อนเนื้อแน่นประกอบด้วยผลึกขนาดเล็กอยู่รวมกัน
มีความวาวตั้งแต่แบบแก้วจนถึงแบบน้ำมัน หยกเจไดต์มีความแข็ง 6.5-7 มีสีในเนื้อพลอยเฉพาะตัว และมักไม่สม่ำเสมอ
มีสีเข้มและจางของแต่ละผลึกรวมกันอยู่ โดยเฉพาะในพลอยก้อนจะมีลักษณะเป็นหย่อมสี
พบว่าเกิดอยู่ในหินเซอร์เพนทีน
ที่ได้จากการแปรสภาพของหินอัคนีชนิดที่มีแร่ดอลีวีนอยู่มาก หรือมีโซเดียมอยู่มาก
2. เนฟไฟรต์ (Nephrite) มีองค์ประกอบทางเคมีเป็นแคลเซียมแมกนีเซียมซิลิเกต
(Calcium magnesium silicate) อยู่ในระบบผลึกหนึ่งแก่นเอียง
โดยธรรมชาติมักพบเกิดเป็นผลึกกลุ่มที่มีขนาดเล็กรุปเส้นใยเดียวกัน
หยกเนฟไฟรต์มีความแข็ง 6-6.5 มีความวาวแบบแก้วถึงน้ำมัน
สีมีความเฉพาะตัวเหมือนหยกเจไดส์ แต่มีสีเข้มไม่เท่า และมีสีมืดมากกว่า
พบว่าเกิดจากหินเดิมที่มีธาตุแมกนีเซียมแปรสภาพด้วยความร้อน
หยกนั้นมีการนิยมในอดีตจนถึงปัจจุบันเพราะหยกนั้นมีความเชื่อว่าผู้ใดที่ได้ครอบครองจะมีความร่มเย็นเป็นสุขตลอดจนถึงความมั่งคงมั่งคั่ง,การเงิน,ธุรกิจ,สุขภาพและอายุ
หยกยังเป็นเครื่องอวยพรให้ผู้ที่ได้รับอายุยืน
เป็นของขวัญอวยพรที่ดีอีกอย่างหนึ่งของ เครื่องประดับและยังเป็นเครื่องบอกลาสำหรับผู้ที่นำหยกแตกให้กัน
วันนี้ทางวัชรมณีแจกหยก บ่อเก่า พม่าไม่ผ่านการแต่งสี 1เม็ด ครับ
สำหรับผู้ที่โทรมาเป็นสายแรกครับ
064-546-6810
วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2560
ลาพิส ลาซูลี
ลาพิส ลาซูลี
ลาพิส ลาซูลี รัตนชาติกึ่งสูงค่า (semi-precious
stone) ถือว่าเป็นอัญมณีที่ค่อนข้างหายาก
ถือเป็นของมีค่ามาตั้งแต่โบราณเพราะมีสีน้ำเงินสด
ลาพิส
ลาซูลี ขุดกันที่จังหวัดบาดัคห์ชานในประเทศอัฟกานิสถานมากว่า 6,000
ปี และค้ามาตั้งแต่โบราณจนปรากฏในเครื่องประดับที่พบในอียิปต์โบราณก่อนยุคราชวงศ์ นอกจากนี้ ยังพบลูกปัด ลาพิส ลาซูลี ในที่ฝังศพที่เมห์รการ์ห์ คอเคซัส หรือแม้แต่ที่ไกลไปจากอัฟกานิสถานในมอริเตเนีย
ลาพิส
ลาซูลี เป็นหินที่ขัดแล้วจะเป็นเงาขึ้น นำไปใช้เป็นเครื่องประดับ งานแกะสลัก กล่อง
งานโมเสก เครื่องตกแต่ง และ
แจกัน ในด้านสถาปัตยกรรมก็ใช้ตกแต่งประดับเสาของวังหรือ ศาสนสถาน
หินลาพิสนั้นจะรู้จักกันในนามของแซฟไฟร์
มีลักษณะเป็นหินที่มีสีน้ำเงินครามและสีน้ำเงินปนเขียว
ในเนื้อหินมักจะมีสีเหลืองประอยู่คล้ายกับมีทองคำแทรกในเนื้อหิน
แต่ความจริงคือแร่ไพไรต์
โดยที่ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่าหินลาพิสนี้เป็นหินแห่งเทพเจ้า
เป็นสัญลักษณ์แห่งพลังอำนาจและเกียรติอันสูงส่ง และคอยปกป้องภัยอันตรายต่าง ๆ โดยหินลาพิส ลาซูลี่ มีความหมายของหินนำโชค
ก็คือหินชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วย แร่ 3 ชนิด ทำให้มีสีต่างกันคือ แร่ไพไรท์มีสีทอง, แร่คาลไซท์มีสีขาว, แร่ลาซูไรมีท์สีน้ำเงิน
ที่ถือกันว่าเป็นอัญมณีที่ค่อนข้างจะหายากมาก
และยังเป็นหินที่เป็นของมีค่ามาตั้งแต่โบราณ ด้วยความมีสีน้ำเงินสด
เป็นหินนำโชคที่เหมาะกับทุกราศีเกิด มีคุณสมบัติช่วยขจัดพิษร้าย คนสมัยก่อนเชื่อว่าถ้าสัมผัสหินลาพิส ลาซูลีทุกวันจะนำความสุขใจ
นำความสมหวังและมีชีวิตที่สุขสบาย
เพราะเป็นหินที่เป็นสัญลักษณ์ของความสมบูรณ์และการมีสถานภาพที่สูงส่งในสังคม
และเนื่องจา ก
หินลาพิส ลาซุลีมีเกล็ดเล็กระยิบระยับของแร่ไพไรท์อยู่ด้วย
จึงทำให้นึกถึงประกายของดวงดาวยามค่ำคืนจะให้นอนหลับอย่างเป็นสุข ลาพิส
ลาซูลีนี้สามารถส่งคลื่นพลังกระตุ้นพลังกายทิพย์ในร่างกายให้สามารถมองเห็นลึกเข้าไปในจิตใจของทุกผู้คนมองลึกลงไปในปัญหาต่างๆ
จึงมักเป็นหินที่ใช้เกี่ยวกับดวงชะตาโหราศาสตร์ มีพลังในการปกป้องคุ้มครองสูงมาก
เสริมสร้างสติปัญญา และคุณสมบัติที่เด่น ๆ ของลาพิส
ลาซูลีจะอยู่ที่แร่ไพไรท์ที่ฝังอยู่ในเนื้อหิน
จะช่วยให้เรามองเห็นหนทางที่จะนำพาทรัพย์สินมาสู่ผู้เป็นเจ้าของ
สามารถเรียกเงินเรียกทองได้ คนสมัยก่อนเชื่อว่าหินลาพิส
ลาซูลีเป็นหินที่เปิดดวงตาที่สาม อีกทั้งยังช่วยชักนำเพื่อนแท้
หินนำโชคลาพิส ลาซูลี ยังช่วยเสริมความกล้าหาญในการเผชิญหน้า การเข้าสังคม
และเสริมความมั่นใจในตัวเองได้อีกด้วย นอกจากนี้แล้ว มากันดีกว่าค่ะว่า หินลาพิส
ลาซูลีนั้น นำโชคให้แก่ผู้ที่เกิดวันต่างๆ ดังนี้
วันจันทร์ เป็นอัญมณีเสริมความเมตตา เพิ่มเสน่ห์
เป็นที่รักใคร่ของผู้พบเห็น
วันอังคาร และวันศุกร์
เป็นอัญมณีเสริมสร้างการงานให้ก้าวหน้ารุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ
วันพุธกลางวัน และวันเสาร์
เสริมความร่ำรวย เสริมการเงิน
วันพุธกลางคืน เสริมด้านสุขภาพ
วันพฤหัสบดี เสริมลังให้มีอำนาจ เสริมสง่าราศี
วันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
เพทาย
เพทาย
เพทาย เป็นอัญมณีที่ได้รับความนิยมมากในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา
ด้วยสีที่หลากหลาย โดยเฉพาะสีฟ้า และ สีขาว จึงนิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับ
อันที่จริงเพทายพบได้เกือบทุกสี ไม่ว่าจะเป็นสีเขียว สีน้ำเงิน สีเหลือง สีน้ำตาล
สีส้ม สีแดง สีน้ำตาลแดง และ สีขาว แม้กระทั่งสีม่วง แต่พบน้อย
บางสีที่เห็นอาจไม่ใช่สีที่ได้จากธรรมชาติ โดยสีน้ำเงิน และ สีขาว
ส่วนมากจะมาจากการปรับปรุงคุณภาพ ซึ่งเดิมเป็นสีน้ำตาล ส่วนสีเขียวเข้ม และ
สีน้ำตาลเหลืองเป็นสีที่พบมากในธรรมชาตื ขณะที่ที่ลึกจะพบสีเหลืองทองซึ่งพบได้ยาก
ดังนั้นจึงมีราคาแพง สีเหลือง และ สีขาว บางครั้งจะเรียกว่า “Jargoon”
ซึ่งได้จากการเผาเพทายสึเหลือง และ สีน้ำตาล
ส่วนเพทายสีฟ้าจะเรียกว่า “starlite” เพทายสีแดง และ
สีน้ำตาลแดง อาจเรียกกันว่า “hyacinth”หรือ “jacinth”
เพทายส่วนมากมาจากประเทศไทย และ ประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างเคียง
จากการที่มีค่าความถ่วงจำเพาะตั้งแต่
3.95-4.86 โดยส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง4.18-4.70
ด้วยคุณสมบัตินี้ทำให้สามารถตรวจสอบได้ง่าย
ทั้งนี้อาจมีคุณสมบัติบางอย่างที่แตกต่างกันไป เช่นจะพบการเปลี่ยนสีคู่ (dichroism)
ในเพทายสีฟ้าเท่านั้น และ เพทายสีฟ้าจะมีความแข็งน้อยกว่าเพทายปกติ
ประมาณ 7 ½ -6 ทำให้เมื่อนำเพทายไปทำเป็นแหวนจึงเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย
และ ต้องนำมาแก้ไขอยู่บ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้จึงต้องเก็บรักษาอย่างดี
โดยแยกเก็บต่างหากจากเครื่องประดับอื่นๆ โดยทั่วไปแล้วเพทายแบ่งเป็น 3 ชนิด ชนิดแรก คือ เพทายาที่มีสีเขียว สีเหลือง และ สีน้ำตาล
บางครั้งอาจรวมถึงสีน้ำเงิน เพทายชนิดนี้มักพบในรูปของเม็ดกลม
อีกทั้งยังแสดงลักษณะหักเหเดี่ยว และ ไม่ปรากฏลักษณะเปลี่ยนสีคู่
การเผาจะทำให้สีของเพทายจางลง เพทายชนิดนี้มีความถ่วงจำเพาะในช่วง 3.82-4.14
ความแข็งประมาณ 7 ¼ มีดัชนีหักเห 1.79-1.84
เพทายชนิดที่สองประกอบด้วยเพทายโทนสีแดง ซึ่งแสดงลักษณะการหักเหคู่
และ การเปลี่ยนสีคู่เล็กน้อย มักพบในรูปของผลึกเพทาย
การเผาเพทายชนิดนี้ก็ทำให้สีจางลงเหมือนเพทายชนิดแรก
เพทายชนิดนี้มีค่าความถ่วงจำเพาะอยู่ในช่วง 4.67-4.71 และ
ความแข็ง 7 ½ มีดัชนิหักเหในช่วง 1.92-1.99 เพทายชนิดที่สามเป็นชนิดที่อยู่ระหว่างเพทายสองชนิดแรก
ซึ่งหมายรวมถึงเพทายทุกโทนสี เพทายชนิดนี้นิยมนำไปเผาเพื่อให้เพทายเปลี่ยนสี
การเผาทำให้สีของเพทายสวยขึ้น รวมถึงค่าความถ่วงจำเพาะ และค่าอื่นๆก็เพื่มขึ้นด้วย
โดยค่าความถ่าวจะเพาะจะอยู่ในช่วง 4.30-4.70 ความแข็งประมาณ 7
¼ - 7 ½ และค่าดัชนิหักเหอยู่ระหว่าง 1.79-1.99 เพทาย หรือคำว่า Zircon อาจมาจากภาษาอะราบิก
โดยคำว่า vermilion หรือจากภาษาเปอร์เซีย คำว่า zargoon
ที่หมายถึง สีทอง
เพทายสีฟ้า
เป็นเพทายสีที่ได้รับความนิยมมากเอกลักษณ์ของเพทายสีฟ้า
อยู่ที่สีฟ้าที่เหมือนสีฟ้าใส และสีฟ้าของน้ำทะเลลึก (เป็นสีฟ้าอมเขียว)ยิ่งได้สีฟ้าเข้มสดเท่าไรก็ยิ่งสวยและยิ่งหาได้ยากมาก
วัขรมณี โทร.064-546-6810
ฟลูออไรด์
ฟลูออไรด์
(Fluorite)
ฟลูออไรด์ เป็นหินที่มีหลากหลายสีเช่น สีม่วง
สีฟ้า สีเหลือง สีชมพู สีเขียว ซึ่งมีส่วนผสมของแร่แคลเซียม และฟลูออรีน
แร่ชนิดนี้เมื่ออยู่ในเตาถ่านจะส่องแสงเป็นสีน้ำเงินอมเขียว ทำให้ดูเหมือนหิ่งห้อย
จึงถูกเรียกว่า “แร่หิ่งห้อย”
ในความเชื่อดั้งเดิมจนถึงปัจจุบัน แร่ธาตุในฟลูออไรด์ มีผลช่วยในเรื่องเกี่ยวกับการรักษาโรคกระดูก และอาการปวดที่มีผลมาจากโรคกระดูก ฟลูออไรด์ยังช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับโรคฟันและเหงือก ควรนำไปวางไว้ที่ตำแหน่งที่มีอาการปวดของร่างกาย หรือพกติดตัวไว้เวลาทำงาน หรือการเดินทางไกล ฟลูออไรด์ยังเป็นหินที่มีพลังของสัญชาติญาณ ทำให้เห็นภาพนิมิต หรือความคิดชั่ววูบเป็นความจริงได้
คุณสมบัติในการบำบัด
ฟลูออไรด์ ช่วยส่งเสริมและพัฒนาความรู้ทางด้านปัญญา ส่งเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น การทำสมาธิ การหยั่งรู้เรื่องจิตวิญาณ การค้นหาความจริงในตัวเอง บรรเทาอาการของโรคปรสาทเสื่อม และช่วยบำบัดอารมณ์เครียด ฟุ้งซ่าน ตื่นเต้น อาการกระทบกระเทือนทางจิต และอาการลมชัก
ฟลูออไรด์ ช่วยส่งเสริมและพัฒนาความรู้ทางด้านปัญญา ส่งเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น การทำสมาธิ การหยั่งรู้เรื่องจิตวิญาณ การค้นหาความจริงในตัวเอง บรรเทาอาการของโรคปรสาทเสื่อม และช่วยบำบัดอารมณ์เครียด ฟุ้งซ่าน ตื่นเต้น อาการกระทบกระเทือนทางจิต และอาการลมชัก
ฟลูออไรต์ Fluorite จะมีคุณสมบัติในการบำบัดขา
เข่า กระดูก
เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ อย่างในอดีตมีการบันทึกว่า
ถ้าปวดขา ปวดเข่า ก็สามารถใช้หินนี้ในการบรรเทาอาการปวดได้ หินฟลูออไรต์
จะมีสีเขียวเข้ม สีม่วงนิด ขาวหน่อย เขียวอ่อนอีกหน่อย อยู่ในเนื้อเดียวกัน
สิ่งที่ทำให้เห็นว่าหินชนิดนี้มีพลังในการบำบัดได้ ชัดที่สุดคือ การนำฟลูออไรด์
มาสกัดเป็น สารฟลูออไรด์ (Fluoride) แล้วผสมในยาสีฟัน
นั่นก็เป็นเพราะแร่ธาตุชนิดนี้มีคุณสมบัติในการบำรุงกระดูกและฟัน
หินชนิดนี้เป็นที่นิยม และเมื่อนำมาใช้จะเห็นผลค่อนข้างชัด เช่น หากมีอาการปวดขา
ปวดเข่า หากมีหินฟลูออไรด์ก้อนใหญ่ สามารถ นำหินนั้นไปแช่ทิ้งไว้ในอ่างน้ำสัก
10-30 นาที แล้วเอาเท้าลงไปแช่ ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดขา ปวดเข่าได้
สนใจติดต่ด วัชรมณี ได้ครับ โทร.064-546-6810
วันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
โป่งข่ามแก้วขนเหล็กขนเขียว
โป่งข่ามแก้วขนเหล็กขนเขียว
โป่งข่ามแก้วขนเหล็กขนเขียว
หรือ กรีน รูไทล์ ควอตซ์ เป็นหิน รวมหินนำโชคทั้งสองชนิด คือ
ควอตซ์และทัวร์มาลีนเขียว เข้าด้วยกันซึ่งจะส่งผลให้นำพาโชคลาภเพิ่มทวีคูณ ควอต์ซ
เป็นหินที่สร้างความสามัคคีกลมเกลียวช่วยปกป้องคุ้มครองเจ้าของให้พ้นภัย
บำบัดโดยการกำไว้ที่มือจะช่วยให้ระบบการทำงานของหัวใจทำงานได้ดีขึ้น
ขจัดความเครียด ทำให้ใจสงบ ขึ้นทัวร์มาลีนเขียว
เป็นหินที่มีพลังส่งเสริมให้เจ้าของสามารถรับรู้จิตใจและอารมณ์ที่แท้จริงของตัวเอง
ลดส่วนเกินในจิตใจให้เกิดความสมดุล มีพลังในการรักษาได้หลายด้าน
ช่วยขจัดความชั่วร้าย เสริมความสุข
ปกป้องคุมครองเจ้าของจากภัยอันตรายหรือสิ่งอัปมงคลและนำมาซึ่งโชคลาภอันใหญ่หลวงแก่เจ้าของ
นอกจากนี้ยังใช้เพื่อดึงดูดเงินและความสำเร็จในธุรกิจ
ส่งผลให้กิจการเจิญก้าวหน้าอย่างดียิ่ง______________________________________________________________________
โป่งข่ามแก้วขนเหล็กขนเขียวของทางร้านวัชรมณี เม็ดนี้
ราคา 500 บาท
ราคา 500 บาท
หรือติดต่อ วัชรมณี โทร.064-546-6810
คาถาบูชาแก้วโป่งข่าม
ป้องกันภัย,แคล้วคาด นะมะพะทะ นิมิพิทิ นุมุพุทุ (แก้วทุกชนิด)
พิรุณแสนห่า พุทโธโมเธยยัง
มุตโตโมเจยยัง ติณโณตาเรยยัง ปะสะหังปะตัง
หมอกมุงเมือง
เทวะรานะมานะ (ภาวนาให้เกิดความร่มเย็น)
แก้วทราย สะมามิมิทธิมามิ (เจริญด้วยสมบัติ ร่ำรวยเงินทอง)
แก้วทุกชนิด นะอุกะอะ นะมะมะอะ มะอุมะนะ อะนะอะมะ อะอุอุมะ อุนะ อุอะ
(เจริญด้วยทรัพย์สมบัติ
ปราศจากโรคภัย)
วันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
ไม้กลายเป็นหิน "ซากพืชอันมีค่า"
ไม้กลายเป็นหิน
ไม้กลายเป็นหิน (อังกฤษ: petrified
wood)
คือซากดึกดำบรรพ์ของพืชประเภทหนึ่ง
เกิดขึ้นจากท่อนไม้ถูกฝังกลบอยู่ใต้ผิวดินในสภาพที่ขาดออกซิเจนทำให้เนื้อไม้ไม่เน่าเปื่อย
และถูกฝังแช่อยู่ในสารละลายซิลิก้าที่มีความเข้มข้นสูงเพียงพอ
ในสภาพแวดล้อมที่ท่อนไม้และสารละลายซิลิกาได้สัมผัสกับออกซิเจนเป็นบางช่วงเวลาทำให้สารละลายซิลิกาตกตะกอนในรูปของซิลิกาเจล
สะสมตัวแทนที่โมเลกุลของเนื้อไม้ (replacement) จนทำให้ท่อนไม้ที่เป็นเนื้อสารอินทรีย์เปลี่ยนไปเป็นเนื้อหินซิลิกาแต่ยังคงรักษาโครงสร้างเนื้อไม้ดั้งเดิมเอาไว้
ด้วยระยะเวลานับเป็นหมื่นเป็นแสนปีหรือมากกว่านี้
ไม้กลายเป็นหินจะค่อยๆสูญเสียน้ำทีละน้อยและค่อยๆพัฒนาเป็นโอปอที่มีสีสันสวยงามได้
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมลทินซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ปะปนอยู่ในเนื้อของซิลิกาออกไซด์
ซึ่งแร่ธาตุต่างๆให้สีสันต่างๆกันไป เช่น
·
คาร์บอน ให้ สีดำ
·
โครเมียม ให้ สีเขียว/น้ำเงิน
·
ทองแดง ให้ สีเขียว/น้ำเงิน
·
เหล็กออกไซด์ ให้ สีแดง/น้ำตาล/เหลือง
·
แมงกานีส ให้ สีชมพู/ส้ม
·
แมงกานีสออกไซด์ ให้ สีดำ/เหลือง
มีรายงานการค้นพบไม้กลายเป็นหินในประเทศไทยหลายแห่ง
ทั้งที่มีอายุเก่าแก่ถึงยุคไทรแอสซิกที่อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ได้รับการศึกษาวิจัยโดยนักบรรพชีวินวิทยาพืชชาวญี่ปุ่นว่า
เป็นไม้สนสกุล อะรอคาริออกไซลอน (Araucarioxylon sp.)
และยังมีรายงานการค้นพบกระจัดกระจายในชั้นหินมหายุคมีโซโซอิกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บ้านโกรกเดือนห้า อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ที่เป็นที่มาของการก่อสร้างและพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน และพัฒนาเป็นสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
แหล่งไม้กลายเป็นหินขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า
30
ตารางกิโลเมตรถูกค้นพบในเขตวนอุทยานไม้กลายเป็นหิน (Bantak
Petrified Forest Park) อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก
จากการสำรวจขุดค้นพบว่าท่อนไม้กลายเป็นหินฝังตัวอยู่ใต้ชั้นกรวดยุคควอเทอร์นารีซึ่งเป็นกรวดแม่น้ำโดยพิจารณาจากความเรียบและกลมมนของเม็ดกรวด
จากการสำรวจภาคพื้นดินพบท่อนไม้โผล่ให้เห็นหลายสิบท่อน
และได้มีการขุดขึ้นมาเพื่อจัดแสดงและพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้วจำนวน 8 ท่อนจากจำนวน 7 หลุมขุดค้น
จากการวิจัยพบว่าเป็นไม้ทองบึ้ง (Koompassioxylon elegans) จำนวน 6 ท่อน และไม้มะค่าโมง (Pahudioxylon sp.)
จำนวน 2 ท่อน (วิฆเนศ ทรงธรรม 2553) ถือว่าเป็นแหล่งไม้กลายเป็นหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
หนึ่งในไม้กลายเป็นหินที่เป็นที่นิยมมากที่สุด
คือ หินไทเกอร์อาย
หินไทเกอร์อาย หินที่มีความเชื่อว่าผู้ได้บูชาสวมใส่
จะมีความร่ำรวย มีพลังแห่งเงินทอง ไปไหนไม่ขาดแคลนเงินทอง มีเงินทองใช้อยู่เสมอ
มีความร่ำรวยมีโชคลาภตลอดไป และยังเป็นหินที่ดูดพลังความโกรธ
ความเกลียดในตัวผู้สวมใส่ ให้ลดพลังโมโห ทิฐิ ลดลงมาได้มาก
ทำให้ผู้สวมใส่เกิดความอ่อนโยนเมตตามากยิ่งขึ้น พลังของหินไทเกอร์อายส์นี้ยังมีพลังที่ป้องกันการโดนสาบแช่ง
การโดนต่อว่าจากผู้อื่นได้อีกด้วย และยังสามารถสะท้อนพลังงานไม่ดีออกไป
และที่สำคัญยังมีความเชื่อว่า ช่วยบำบัดโรคภัยไข้เจ็บได้เช่น โรคหอบหืด
โรคเกี่ยวกับหลอดลมทางเดินหายใจ โรคความดันโลหินสูง
และยังมีพลังเพิ่มพลังให้แก่ผู้สวมใส่สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองเหมือนรู้เหตุล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้น
อ้างอิง
อ้างอิง
·
วิฆเนศ ทรงธรรม (2553) ธรณีวิทยาและบรรพชีวินวิทยาแหล่งไม้กลายเป็นหิน
อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก. กรมทรัพยากรธรณี สำนักคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ 68 หน้า
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
วัชรมณี: ไพลิน
วัชรมณี: ไพลิน : ไพลิน " ไพลิน ( Blue Sapphire)" เป็นพลอยประจำเดือนเกิดของผู้ที่เกิดเดือนกันยายน และไพลินยังถือเป็นสัญญลักษณ...
-
แก้วขนเหล็ก(ไหมทอง) ไหมทอง ถือเป็นหินนำโชคชนิดหนึ่ง ที่อยู่ในตระกูลของ ควอร์ตซ์ (Rutillated Quartz) หรือ หินคริสตัล มีลักษณะเป...
-
แก้วโป่งข่าม "แก้วโป่งข่าม" เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ เชื่อว่าหลายท่านรู้จักเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีอีกไม่น้อย ที่เพียงแต่เคยได้ยิน...
-
ตำนานพระเมืองฮอด ตำนานพระเมืองฮอด หรือที่เรียกว่า " พระกรุฮอด " ซึ่งตามตำนานการขุดค้นพบทุกวัด ในเมืองนี้ก่อนที่จะกลายเป็นเ...